ทีมที่เข้ารอบแล้ว : พีเอโอเค (กรีซ), สตองดาร์ ลีแอช* (เบลเยียม), ฮันโนเวอร์ (เยอรมัน), พีเอสวี* (ฮอลแลนด์), ลีเกีย วอร์สซอว์ (โปแลนด์), สปอร์ติ้ง ลิสบอน* (โปรตุเกส), สโต๊ค (อังกฤษ), แอธ.บิลเบา* (สเปน), เมตาลิสต์ คาร์คิฟ* (ยูเครน), บราก้า (โปรตุเกส), แอต.มาดริด (สเปน), ชาลเก้* (เยอรมัน), ทเวนเต้* (ฮอลแลนด์), อันเดอร์เลช (เบลเยียม), โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย)
หมายเหตุ : ทีมที่มี * กำกับคือแชมป์กลุ่ม
Group D
เอฟซี ซูริค -vs- วาสลุย
ลาซิโอ -vs- สปอร์ติ้ง ลิสบอน
• ลิสบอนเข้ารอบไปแล้ว ขณะที่ เอฟซี ซูริค ก็โบกมือลาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
• วาสลุย มี 6 แต้มเท่ากับ ลาซิโอ แต่ทีมจากโรมาเนียครองความได้เปรียบในเรื่องของสถิติการพบกัน ทำให้ขุนพลอินทรีแห่งกรุงโรมต้องชนะ พร้อมกับแช่งให้ วาสลุย ไม่ชนะที่ สวิตเซอร์แลนด์ แต่ในกรณีที่ ลาซิโอ เสมอ ก็ต้องลุ้นให้ตัวแทนจากแดนผีดิบแพ้ ส่วนกรณีที่ วาสลุย ชนะ ซูริค ทีมจากโรมาเนียจะเข้ารอบตาม ลิสบอน แบบไม่ต้องสนใจผลที่ โอลิมปิก สตาดิโอน
Group E
ดินาโม เคียฟ -vs- มัคคาบี้ เทล อาวีฟ
เบซิคตัส -vs- สโต๊ค ซิตี้
• "เดอะ พ็อตเตอร์ส" สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทะลุเข้าถึงรอบน๊อคเอาท์ของฟุตบอลยุโรปได้สำเร็จและ สโต๊ค ต้องการเพียงผลเสมอเพื่อการันตีตำแหน่งแชมป์กลุ่ม E
• ด้าน เบซิคตัส ต้องการผลเสมอที่ อิสตันบูล เพื่อตาม สโต๊ค เข้ารอบแบบไม่ต้องแคร์ผลระหว่าง ดินาโม เคียฟ - มิคคาบี้ เทล อาวีฟ แต่ถ้าอยากเข้าป้ายในฐานะแชมป์กลุ่มก็ต้องมองไปที่สามแต้มสถานเดียว
• กรณีที่ เบซิคตัส แพ้ โอกาสผ่านเข้าสู่รอบน๊อคเอาท์ก็ยังเปิดกว้าง เพราะข้อแม้เดียวที่พวกเขาจะตกรอบก็คือ พลาดท่าที่ อิสตันบูลและ ดินาโม เคียฟ ชนะ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ ด้วยผลต่างตั้งแต่ 4 ประตูขึ้นไป
Group F
สโลวาน บราติสลาวา -vs- ซัลซ์บวร์ก
เปแอสเช -vs- แอธ.บิลเบา
• ทีมจากแดนกระทิงดุผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วในฐานะแชมป์กลุ่มและ สโลวาน ตกรอบไปแล้วเช่นกัน
• จากสถิติเฮ้ดทูเฮ้ดที่เป็นรองทำให้ เปแอสเช ต้องเก็บคะแนนในการเจอ บิลเบา ให้ได้มากกว่าที่ ซัลซ์บวร์ก มีคิวเยือน สโลวาน ที่ สโลวาเกีย แต่กรณีที่ทีมเงินหนาจาก ออสเตรีย เก็บสามแต้มสำเร็จ ทาง ซัลซ์บวร์ก จะตีตั๋วเข้ารอบไปทันทีแบบไม่ต้องดูผลงานของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
Group J
มัคคาบี้ ไฮฟา -vs- ชาลเก้
สเตอัว บูคาเรสต์ -vs- เออีเค ลาร์นาก้า
• ชาลเก้ ล่วงหน้าคว้าแชมป์กลุ่มไปครองแล้ว ส่วนอีกสามทีมยังอยู่ในข่ายพลิกสถานการณ์กลับมาตีตั๋วเข้ารอบทั้งหมด
• มัคคาบี้ ไฮฟา ครองความได้เปรียบเหนืออีก 2 ทีมเล็กน้อย เพราะถ้าสามารถเปิดบ้านเอาชนะ ชาลเก้ ก็จะผ่านเข้ารอบไปทันที แต่ถ้าผลที่ อิสราเอล จบลงด้วยการเสมอ ทาง ไฮฟา ก็ต้องลุ้นให้อีกสนามไม่มีผลแพ้-ชนะเกิดขึ้น
Group K
วิสล่า คราคอฟ -vs- ทเวนเต้
ฟูแล่ม -vs- โอเดนเซ่
• ทเวนเต้ เป็นแชมป์กลุ่ม ส่วน โอเดนเซ่ ตกรอบแล้ว• แต้มของ วิสล่า ตามหลัง ฟูแล่ม อยู่ ฉะนั้นข้อแม้ในการเข้ารอบของทีมจาก โปแลนด์ คือ จำเป็นต้องชนะและลุ้นให้ โอเดนเซ่น บุกเก็บผลเสมอที่ คราเว่น ค็อตเทจ ให้ได้เป็นอย่างน้อย
Group L
สตวร์ม กราซ -vs- เออีเค เอเธนส์
อันเดอร์เลช -vs- โลโคโมทีฟ มอสโก
• อันเดอร์เลชกับ โลโคโมทีฟ ควงแขนกันเข้ารอบ แต่ยังต้องดวลกันทิ้งทวนเพื่อหาแชมป์กลุ่ม
• ชัยชนะ 2-0 ที่ มอสโก ช่วยให้ อันเดอร์เลช ได้เปรียบอยู่มาก เพราะข้อแม้เดียวที่จะทำให้ตัวแทนจากเบลเยียมพลาดตำแหน่งแชมป์กลุ่มคือ พลาดท่าคาถิ่นด้วยความห่างตั้งแต่ 2 ประตูขึ้นไป แต่กรณีที่ โลโคโมทีฟ ชนะ 2-0 ทาง อันเดอร์เลช จะเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่าอยู่ดี
