Match background
• กำลังใจของนักเตะ ซิตี้ น่าจะเต็มเปี่ยมในการเฝ้ารังชี้ชะตาคราวนี้ เพราะทัพ "เรือใบสีฟ้า" ไม่แพ้เกมยุโรปที่บ้านตัวเองมาแล้วต่อเนื่องถึง 14 เกม โดยครั้งล่าสุดที่ แมนฯซิ พังคาบ้านต้องย้อนไปเกม ยูฟ่า คัพ รอบคัดเลือก รอบ 2 กับ เอฟซี มิดทิลลันด์ ฤดูกาล 2008/09 ส่วน บาเยิร์น ยกพลมาเยือน ซิตี้ อ๊อฟ แมนเชสเตอร์ ด้วยผลงาน ชนะ 6 จาก 8 นัดล่าสุดในการหวดเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นอกบ้าน
• หนล่าสุดที่ ซิตี้ รับบทเจ้าบ้านดวลกับอาคันตุกะจาก เยอรมัน เกิดขึ้นในปี 2009 โดยครั้งนั้น แมนฯซิ เปิดรังเฉือนชนะ ฮัมบูร์ก 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดต้องตกรอบด้วยกฏอเวย์โกล์ โดย แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เนดุม โอนูโอฮา, ไมกาห์ ริชาร์ดส์และ ปาโบล ซาบาเลต้า อยู่ร่วมโผตัวจริงขุมกำลังเซตดังกล่าว ส่วน เจอโรม บัวเต็งและ อิวิก้า โอลิช ครั้งนั้นยังสังกัดทีม "สิงห์เหนือ" อยู่
• ย้อนไปหนึ่งฤดูกาลก่อนหน้านั้น ซิตี้ เคยเอาชนะ ชาลเก้ 04 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่มรายการเดียวกัน ซึ่งทีมชุดนั้นของ "เดอะ รอยัล บลูส์" มีนายทวาร มานูเอล นอยเออร์กับ ราฟินญ่า ที่คาดว่าจะออกสตาร์ทเป็น 11คนแรกให้ บาเยิร์น วันนี้
• พลิกประวัติของ แมนฯซิตี้ ในการเปิดบ้านดวลบอลยุโรปกับสโมสรจากเมืองเบียร์ครั้งแรกเกิดขึ้นในฟุตบอล คัพ วินเนอร์ส คัพ รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 1969/70 โดยครั้งนั้น "เรือใบสีฟ้า" ต้อนเอาชนะ ชาลเก้ ไปแบบขาดลอย 5-1
• บาเยิร์น หอบความทรงจำที่ดีก่อนทริปเยือน แมนเชสเตอร์ คราวนี้ เพราะครั้งล่าสุดพลพรรค "เสือใต้" สามารถบุกมาตีตั๋วเข้ารอบที่เมืองนี้ ทว่าเป็นการรับศึกกับ แมนฯยูไนเต็ด โดยโคตรบอลจากแดนไส้กรอกเป็นรอง "ปีศาจแดง" ก่อนถึง 0-3 แต่สุดท้ายไล่มาเป็น 3-2 ก่อนที่ บาเยิร์น จะชิงตั๋วรอบชิงชนะเลิศไปครองท่ามกลางความเจ็บปวดของสาวก "เร้ด อาร์มี่"
• ส่วนครั้งสุดท้ายที่ บาเยิร์น บุกหยิบชัยที่ อังกฤษ ก็ยังเป็นความสำเร็จเหนือเหยื่อรายเดิม ซึ่งก็คือ แมนฯยูไนเต็ด โดยเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2001 และเป็น "เสือใต้" เผาเครื่อง แมนฯยู คาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 ขณะที่ภาพรวมนัดเยือนแดนผู้ดีของ บาเยิร์น คือ ชนะ 2 เสมอ 7 แพ้ 5
• บาเยิร์น เคยก้าวขึ้นครองแชมป์ยุโรป (ยูโรเปี้ยน คัพ) จากการคว่ำ ลีดส์ 2-0 ในปี 1975 แต่อีกสองครั้งถัดมาสาวก "เสือใต้" ต้องฝันค้าง เพราะพลาดท่าต่อ แอสตัน วิลล่า (0-1, 1982) และ แมนฯยูไนเต็ด (1-2, 1999)