อันเดร บียาส โบอัส เตรียมคุม เชลซี ลงหวดรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก
Previous meetings
* ในการโคจรมาพบกันหนแรกบนเวทียุโรประหว่างสองสโมสรคราวนี้ เชลซี เตรียมลงสนามด้วยสภาพจิตใจที่เป็นต่อ เพราะพลพรรค "สิงห์บลูส์" แห่ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีปูมหลังอันยอดเยี่ยมในการรับมือตัวแทนจากเมืองเบียร์ โดยดวลกัน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ที่กรุงลอนดอน ปรากฏว่า เชลซี ยังไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้ แถมเป็นฝ่ายเปิดบ้านสอนเชิงสโมสรบุนเดสลีก้าไปถึง 4 หน
* เลเวอร์คูเซ่น ผ่านเข้ามาร่วมชิงชัยในรายการนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2004/05 ทว่าตัวเลขที่ไม่น่าจดจำนักก็คือขุนพล "ห้างขายยา" ยังไม่เคยบุกมาชนะที่ อังกฤษ ตลอดการมาเยือน 7 ครั้งที่ผ่านมาและเป็นฝ่ายแพ้ 5 จาก 6 เกม แต่ผลเสมอหนึ่งเดียวบนแดนผู้ดีนั้นเกิดขึ้นในครั้งล่าสุด ตอนบุกเจ๊า แบล็คเบิร์น แบบโนสกอร์ในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอล ยูฟ่า คัพ 2006/07
* เลเวอร์คูเซ่น ดวลกับสโมสรพรีเมียร์ลีกมาทั้งหมด 15 ครั้งนับรวมเหย้า-เยือนและเอาตัวรอดเก็บชัยไปครองได้เพียง 2 หนและพลาดท่าถึง 9 ครั้ง
Match background
* เชลซี ครองสถิติยอดเยี่ยมในเกมเปิดตัวรอบแบ่งกลุ่ม เพราะสามารถเก็บชัยชนะประเดิมรอบนี้ได้ถึง 7 จาก 9 ครั้งที่ผ่านมา โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลก่อนที่แข้งลอนดอนเนอร์สไล่ถล่ม เอ็มเอสเค ซิลิน่า 4-1 ซึ่งท้ายที่สุด คาร์โล อันเชล็อตติ พาทีมเข้าป้ายเป็นแชมป์กลุ่มด้วยการเก็บ 9 คะแนนเต็มในบ้านและมีแต้มเหนือทีมอันดับ 2 โอลิมปิก มาร์กเซย 3 คะแนน
* พลิกปูมหลัง เชลซี มีมาตรฐานสูงมากในรายการนี้ หลังจากที่เข้ารอบลึกมาเกือบทุกปี โดยเมื่อฤดูกาลก่อนเส้นทางของ "สิงห์บลูส์" ไปสุดลงที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ภายหลังพลาดท่า แมนฯยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 1-3 แต่นับย้อนในช่วง 8 ฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี ทะลุถึงรอบตัดเชือกถึง 5 ครั้ง
* เชลซี เคยรักษาสถิติไร้พ่ายที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในบอลยุโรปทุกรายการต่อเนื่องถึง 21 นัด (ชนะ 15 เสมอ 6) แต่สุดท้ายต้องพังลงด้วยฝีเท้าของ อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 2009/10 ซึ่งพอทำนบแตกให้กับทาง "เนรัซซูรี่" แล้ว ตัวแทนจากเมืองหลวงก็มาพลาดท่าซ้ำต่อ ยูไนเต็ด ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง
* ครั้งสุดท้ายที่ เลเวอร์คูเซ่น ตีตั๋วเข้ามาโชว์ฝีเท้าในรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้ต้องนับย้อนไปถึง 7 ปี ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าวขุนพล "ห้างขายยา" ประกาศศักดาหักปากกาเซียนด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มเหนือ เรอัล มาดริดและ โรม่า โดยเก็บไปถึง 11 แต้ม แต่สุดท้ายตัวแทนจากเมืองเบียร์ก็ต้องหยุดความสำเร็จไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะแพ้ ลิเวอร์พูล แบบหมดทางสู้ ด้วยสกอร์รวม 2-6
