บาเยิร์น ฟาดชัยไปแบบร้อยเปอร์เซนต์เต็มในช่วง 5 เกมหลังสุดโดยที่แนวรับยังไม่เสียความบริสุทธิ์
ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองเบียร์เดินหน้าเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 โดยหลังจากผ่านพ้นมา 4 เกม ปรากฏว่ายังหาทีมนำเดี่ยวไม่ได้ เพราะมีถึง 3 สโมสรที่ตุนไว้แล้ว 9 แต้มเท่ากัน ประกอบด้วย บาเยิร์น มิวนิค, ชาลเก้ 04 และ แวร์เดอร์ เบรเมน แต่ "เสือใต้" เบียดขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราวจากจำนวนประตูได้-เสียที่จะแจ้งกว่า
ทีมของเทรนเนอร์ จุ๊ปป์ เฮย์เกส กลับมาเล่นสมราคาทีมเต็งอีกครั้ง แถมยังเป็นการคัมแบ็กอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะนับตั้งแต่เสียหน้า มึนเช่นกลัดบัค ต่อหน้ากองเชียร์ที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ในแมตช์เปิดซีซั่นแล้ว ทีมรวมดาราแห่งแคว้นบาวาเรียแสดงปฏิกริยาตอบสนองความพ่ายแพ้ดังกล่าวด้วยการเดินหน้ากวาดชัย 5 แมตช์รวดในทุกรายการโดยที่เกมรับยังไม่เสียประตู
เทียบกับทีมนำร่วมที่เหลือแล้ว ในวีคนี้นับว่างานของ บาเยิร์น เบาแรงที่สุด เนื่องจากเป็นคิวเฝ้ารังดวลกับคู่แข่งโซนล่างอย่าง ไฟร์บวร์ก ที่ยังไม่เคยบุกมาหยิบแต้มกลับออกไปจาก มิวนิค เลยในช่วง 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา (0-2, 1-3, 1-2 และ 2-4) และปีนี้ขุนพล "จิ้งจอกแห่งป่าดำ" ยังสะกด "ชัยชนะ" นอกบ้านไม่เป็น แต่ยังดีที่นัดล่าสุดผลงานกระเตื้องขึ้นบ้างจากการเปิดบ้านถลุง โวล์ฟสบวร์ก 3-0
คู่ต่อมาเป็นเกมโม่แข้งที่ เวเซอร์ สตาดิโอน ซึ่งเจ้าบ้าน เบรเมน ที่เพิ่งพลาดท่าต่อ เลเวอร์คูเซ่น เพียงหนเดียวจะรับการมาเยือนของสิงห์เหนือตกอับอย่าง ฮัมบูร์ก ที่ควานหาชัยชนะยังไม่เจอตลอดการลงสนามทุกรายการในเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมารวม 5 นัดและจมปลักอยู่ตำแหน่งบ๊วยแบบพลิกความคาดหมาย
อย่างไรก็ตามนับเป็นด่านทดสอบสุดหินสำหรับเทรนเนอร์ มิชาเอล เยนนิงก์ เพราะ 4 ครั้งล่าสุดที่มาเยือน เวเซอร์ ในศึกบุนเดสลีก้า ทาง "สิงห์เหนือ" เพิ่งมาแบ่งคะแนนกลับไปได้แต้มเดียวในฤดูกาล 2009/10 ส่วนอีกสามหนนั้นแพ้เรียบและนอกเหนือจากนั้นแนวรับ ฮัมบูร์ก ต้องหาทางรับมือกับเกมบุกที่กำลังเข้าฝักของ "นกนางนวล" ซึ่งไล่สอยคู่แข่ง 15 ตุง จาก 5 เกมหลังสุดอีกด้วย
แบร์นด์ เลโน่ นายด่านวัย 19 ปี ของ เลเวอร์ฯ ไม่เสียประตูมาแล้ว 270 นาที
สำหรับเกมวันศุกร์จะเปิดหัวด้วยคู่ของ เอ๊าส์บวร์ก กับ เลเวอร์คูเซ่น โดยทีมน้องใหม่ในยุคของเฮ้ดโค้ชชาวดัตช์ ยอส ลูฮูคาย ประเดิมผลงานการคัมแบ็กสู่ลีกสูงสุดคราวนี้ไม่สวยนักจากผลงาน เสมอ 2 แพ้ 2 ซ้ำร้ายเกมรุกเริ่มตัดขัดยิงประตูคู่แข่งไม่ได้มาแล้ว 2 เกม โดยตัวความหวังสูงสุดอย่าง ซาสช่า โมลเดอร์ส ที่เปิดตัวแรงด้วยการซัด 3 ตุงในช่วง 2 นัดแรก ยังคลำเป้าไม่เจอในสองนัดถัดมา
สวนทางกับ เลเวอร์คูเซ่น ที่เดินตามรอย บาเยิร์น ด้วยผลงานที่เป็นรองเล็กน้อย จากการเก็บ 7 คะแนนในช่วง 3 เกมหลังสุดแบบที่แนวรับไม่เสียประตูหลังจากเปิดตัวซีซั่นใหม่ด้วยความพ่ายแพ้ 0-2 ที่รัง ไมนซ์ โดยจุดแข็งของทีม "ห้างขายยา" ชุดนี้หนีไม่พ้นเกมรับที่ไร้มลทินมาแล้วร่วม 270 นาที ทั้ง ๆ ที่ด่านสุดท้ายต้องหันมาใช้งาน แบร์นด์ เลโน่ วัย 19 ปี แทน เรเน่ อ๊าดเลอร์ ซึ่งเจ็บยาว
ทางด้านรองจ่าฝูง ชาลเก้ 04 มีคิวเล่นให้หลังในวันอาทิตย์ โดยเด็ก ๆ ของ ราล์ฟ รังนิค จะบุกรัง โฟล์ค สวาเก้น อารีน่า ของ โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งในเวลานี้ทีมเจ้าบ้านสถานการณ์กำลังเข้าตาจน หลังจาก เฟลิกซ์ มากัธ ร่ายเวทย์ไม่ออกพาทัพ "หมาป่า" เก็บได้แค่ 3 คะแนนจากการเปิดตัวสุดหรูในนัดแรก แต่กลับมาพ่ายรวดอีกสามนัดถัดมา
เกมบุกชาลเก้กด 16 ตุงในช่วง 4 นัด ขนาดกองหลังอย่างโฮเวเดส (ขวา) ยังเติมขึ้นมาบวกสกอร์กับเขาด้วย
ส่วน "ราชันสีน้ำเงิน" แห่ง เกลเซ่นเคียร์เช่น ยิ่งเล่นยิ่งดุ เพราะทีมของ รังนิก โชว์ฟอร์มติดลมบนกวาดชัย 4 นัดรวดในทุกรายการนับตั้งแต่ถูก เฮลซิงกิ ลูบคม 2-0 ในเลกแรกของฟุตบอล ยูโรป้า ลีก โดยทีเด็ดของ ชาลเก้ อยู่ตรงจังหวะปิดบัญชีที่ไล่ระเบิดตาข่ายฝ่ายตรงข้ามไปถึง 16 ลูกจาก 4 เกมที่ผ่านมา แถมฟาดชัยนัดเหย้ามาสามแมตช์รวดทั้งในบอลลีกและเวทียุโรป
คิวเตะคู่ที่เหลือของฟุตบอลบุนเดสฯ สัปดาห์นี้ "แชมป์เก่า" ดอร์ทมุนด์ จะเปิดบ้านดวลทีมน้องใหม่ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ต พบ ฮันโนเวอร์, ไมนซ์ พบ ฮอฟเฟ่นไฮม์, กลัดบัค พบ ไกเซอร์ฯและ โคโลญจน์ พบ เนิร์นแบร์ก โดยทุกคู่ของวันเสาร์เริ่มเขี่ยสองทุ่มครึ่งตามเวลาบ้านเรา มี เบรเมน เป็นคู่ดึก (23.30 น.) ส่วน โคโลญจน์-เนิร์นแบร์กและ โวล์ฟสบวร์ก-ชาลเก้ ลงเตะวันอาทิตย์
ตารางคะแนน
