ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เก็บฉากโรงเรียนเวมบลีย์เป็นที่เรียบร้อย แชมป์ตกเป็นของ บาร์เซโลน่า อย่างเด็ดขาด ภายหลังไล่ต้อนแชมป์พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอย่างเหนือชั้น 3-1 รูปเกมขาดอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดทีมครบเตรื่องอย่าง "ปิศาจแดง" ยังหมดรูสู้แบบนี้ ต้องยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่า "เจ้าบุญทุ่ม"เป็นทีมจากนอกโลกอย่างแท้จริง
ก่อนเกมเริ่ม ผู้สันทัดกรณีและสื่อมวลชนต่างโหมโรงกันอย่างคึกคักว่าจะต้องเป็นแม็ตช์ในฝัน และจะเป็นเกมแห่งความทรงจำ ดูเหมือนว่าความคิดของพวกเขาจะถูกแค่ครึ่ง เนื่องจากเป็นฝ่ายทีมจากแดนกระทิงดุที่สนุกอยู่ข้างเดียว และก็เป็นอย่างที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้ว่า ถ้าช่วง 15 นาทีแรก เด็กผีขึ้นนำไม่ได้ ลิเกช้อยเก็บฉากทันที เพราะเวลายิ่งผ่านไปเท่าไร บาร์ซ่า ยิ่งหาทางของตัวเองเจอง่ายขึ้นเท่านั้น
ไร้ชื่ออย่างปริศนาในเกมนัดชิง
นอกจากนี้ การจัดทัพของ เฟอร์กี้ ยังดูแปลกๆ ตั้งแต่ก่อนเขี่ย เมื่อเหลือบไปดูรายชื่อบนม้านั่งสำรอง ไม่มีดาวเตะจอมเทคนิค ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เข้าใจว่ากองหน้ารายนี้ฟอร์มตก แต่จากประสบการณ์ และความเจนจัดของเขาน่าจะช่วยสถานการณ์ของทีมได้ และผมเชื่อว่าเขาเป็นตัวพลิกเกมทีดี
ที่หนักไปกว่านั้น ไม่มีแม้แต่รายชื่อบนม้านั่งสำรอง ชิชาริโต้ อาจจะเป็นนักเตะที่ก้าวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาความมุ่งมั่น ความเร็ว รวมทั้งโหงวเฮ้งที่สดใส แต่ผมยังมองว่าเขายังเด็กเกินกว่าที่จะมารับภาระตรงนี้ จริงๆน่าจะให้โอกาสเจ้าตัวอยู่ข้างสนามรอเวลาที่เหมาะสมดีกว่า เหมือนอย่าง โซลชา ที่ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อปี 1999 นั่นล่ะ
สร้างเซอร์ไพรส์ไม่ได้สำหรับถั่วน้อย
การส่ง "ถั่วน้อย" เป็นการเสี่ยงของ เฟอร์กี้ อย่างแท้จริง เพราะจากประสบการณ์อันน้อยนิดของดาวยิงเม็กซิกัน เวลาในสนามผ่านไปเรื่อยๆ ความมั่นใจของไอ้หนูหัวเกรียน ยิ่งลดลงไป สุดท้ายก็ล้มเหลว ช่วยทีมอะไรไม่ได้เลย
ล่าสุดผมเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเฟอร์กี้ ว่าทำไมถึงไม่ใส่ชื่อของ เบิร์บ ลงในรายชื่อตัวจริงและไม่จริง ปรากฏว่าท่านเซอร์ เบี่ยงประเด็นแต่กลับบอกว่า โอเว่น มีสถิติการยิงประตูที่ดีในแชมเปี้ยนส์ ลีก ประสบการณ์ตรงนี้น่าจะช่วยทีมได้ ก็ถูกของแกนะ เพราะว่าฤดูกาลนี้ศูนย์หน้าบัลแกเรียน ยังเบิกประตูในชปล ไม่ได้เลย
แต่ที่สงสัยก็คือทำไมไม่ส่ง โอเว่น ลงไปโชว์ฝีเท้าดูบ้าง ในเมื่อ ขิชาริโต้ ไม่อาจสำแดงศักยภาพตามที่ต้องการออกมา ถ้าอดีตเบบี้ โกล์ ลงไปเราน่าจะได้เห็นความแตกต่างไม่มากก็น้อย
เล่นกันได้สมกับเป็นกองทัพเอเลี่ยน
จุดที่น่าสงสัยอีกอย่างก็คือ คู่มิดฟิลด์ กิ๊กส์ กับ คาร์ริค ดูจะไม่ค่อยเวิร์กเท่าที่ควร เพราะทั้งคู่มีสปีดที่ช้า เจอกองกลางความเร็วจรวดของพวกเอเลี่ยน ทั้งสองหน่อแทบจะหาบอลไม่เจอ ผมว่าส่ง เฟล็ทเชอร์ ที่ถนัดกับการตัดบอลจากซูเปอร์สตาร์ลงไปแทน คาร์ริค หรือ กิ๊กส์ คนใดคนหนึ่งน่าจะดีกว่า ถามว่าใครจะปราบ บาร์ซ่า? ตอบตามตรงชั่วโมงนี้ไม่มีแน่นอน ที่ทำได้ก็คือรอให้พวกเขาร่วงโรยไปตามกาลเวลา เพราะปัจจุบันนี้เป็นวัฏจักรของพวกเขา เป็นธรรมชาติของวิถีฟุตบอล เพียงแต่ว่าใครจะขึ้นมา ขึ้นมานานแค่ไหน และมากแค่ไหนด้วย ดังนั้นช่วงเวลานี้ต้องปล่อยพวกนอกโลกสนุกกับการเก็บแชมป์ก่อน รอจนกว่าแข้งเทพอย่าง ชาบี้, เมสซี่, อิเนียสต้า หรือ เปโดร โรยลา ซึ่งคงอีกนาน
ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ใช่ว่าผมจะแสดงความสามารถว่าเหนือกว่า เฟอร์กี้ นะครับ มันเป็นธรรมดา และง่ายที่จะมองจุดบกพร่องของทีมที่แพ้ ซึ่งมันเป็นแค่ความคิดเห็นของผมเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามแต่ ถ้าปีหน้าคู่นี้เกิดหลุดเข้ามาชิงกันอีก และเกิด ยูไนเต็ด แพ้ในรูปแบบเดิมอีก ผมคิดว่า เซอร์ อเล็กซ์ คงไม่มีข้อโต้แย้งอีกนั่นล่ะ ก็ทีมพวกมันเล่นมาจากต่างดาวแบบนี้ จะไปแย้งอะไรล่ะ!!
