3 กุนซือ 3 มุมมอง : ตราปัตโตนี่ - ฮิดดิ้งค์ - เบนโต้

ตราปัตโตนี่ เคยสัมผัสแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม

              สำหรับเกียรติยศของ ตราปัตโตนี่ ขรัวเฒ่าชาวอิตาเลี่ยนรายนี้บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็น 1 ใน 6 ของมนุษย์ผู้ครอบครองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีมเหมือนกับ โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า โดย ตราปัตโตนี่ คว้าแชมป์รายการนี้ปี 1963 ที่ เวมบลีย์ เมื่อสมัยค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ก่อนผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์และนำ ยูเวนตุส สอยแชมป์ไปประดับตู้โชว์ที่ ตูริน ในปี 1985

               สองปีถัดจากนั้นเป็นคิวของ กุส ฮิดดิ้งค์ ที่พา พีเอสวี ขึ้นครองตำแหน่งจ้าวลูกหนังยุโรป ด้วยการดวลจุดโทษชนะ เบนฟิก้า ส่วน เปาโล เบนโต้ ยังไม่เคยสัมผัสถึงจุดสูงสุดดั่งสองรายข้างต้น ทว่าอดีตมิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติโปรตุเกสรายนี้เคยปะทะ แมนฯยู เมื่อครั้งพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน ลงหวดเกมยุโรปด้วยฐานะโค้ชเป็นเกมแรกในฤดูกาล 2007/08 และโคจรมาดวลกับฝั่ง "เลือดหมู-น้ำเงิน" ในซีซั่นต่อมา เรียกได้ว่าแต่ละรายต่างมีทั้งอดีตกับรายการนี้ รวมถึงปูมหลังกับคู่ชิงหนนี้คลุกเคล้ากันไปแบบถ้วนหน้า
 
โจวานนี่ ตราปัตโตนี่, โค้ชทีมชาติไอร์แลนด์

              มันเป็นรอบชิงชนะเลิศที่สองสุดยอดทีมของยุโรปโคจรมาพบกัน ซึ่งจากมุมมองด้านเทคนิคแล้ว เรียกได้ว่าศึกดวลแข้งหนนี้คือ การพบกันระหว่างสองสุดขั้วที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีคาแร็คเตอร์แข็งแกร่งตามแบบฉบับฟุตบอลอังกฤษจะเผชิญหน้ากับทีมซึ่งอุดมไปด้วยจินตนาการและสุดยอดเทคนิคอย่าง บาร์เซโลน่า

             นอกจากนั้นพวกเขา (ยูไนเต็ด) ยังมีทักษะการเล่นสูง ทำให้ยากต่อการรับมือของฝ่ายตรงข้าม แต่ในทางกลับกัน บาร์ซ่า เล่นฟุตบอลสวยงามและผมคิดว่าหาก บาร์เซโลน่า เล่นในเกมของตัวเองได้ พวกเขาจะได้แชมป์ไปครอง อย่างไรก็ตามถึงแม้ประสบการณ์จะบอกผมว่าเกมมีแนวโน้มจะจบลงใน 90 นาที แต่ไม่ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเกมแบบนี้ 
 
             ความแตกต่างระหว่าง "ผู้ชนะ" และ "ผู้แพ้" ในเกมระดับสูงเช่นนี้อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดเพียงน้อยนิดหรือการเสียสมาธิไปเพียงเสี้ยววินาที สิ่งสำคัญสำหรับทั้งสองทีมคือจะต้องเล่นให้ได้ตามแนวทางที่วางไว้ ส่วนอื่นที่เหลือมันก็ขึ้นอยู่กับระดับความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของตัวเอง รวมถึงความรู้สึกกลัวต่อข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย
 
            เซอร์ อเล็กซ์ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมและประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย เขาผ่านเกมระดับนี้มาจนคุ้นเคย ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์อย่างล้นเหลือและนั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก ขณะเดียวกันเขายังรู้เกี่ยวกับบทบาทของนักเตะและเข้าถึงจิตใจลูกทีมอย่างทะลุปรุโปร่ง ส่วน เป๊ป เขายังหนุ่มและเป็นโค้ชหน้าใหม่ไฟแรง ซึ่งแม้จะเป็นรองในเรื่องประสบการณ์ แต่ก็ทำทีมเพียบพร้อมด้วยคุณภาพและไม่เคยแสดงท่าทีที่หวั่นใจออกมาให้เห็นเลย
 
กุส ฮิดดิ้งค์, โค้ชทีมชาติตุรกี

            ทั้งสองทีมต่างมุ่งจะเก็บผลการแข่งขันให้ได้ตามเป้าด้วยการเล่นฟุตบอลแนวรุกต่างสไตล์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพวกเขาประสบความสำเร็จเพราะวางรากฐานของทีมมาดี โดยทั้ง บาร์เซโลน่าและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นฟุตบอลตื่นตาตื่นใจอย่างที่แฟนบอลชื่นชอบ ทำให้เกมชิงชนะเลิศหนนี้จะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาอย่างแน่นอน
 
เปาโล เบนโต้, โค้ชทีมชาติโปรตุเกส

            หนึ่งในกุญแจสำคัญเห็นจะเป็นการวางแผนของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าจะใช้กลยุทธรูปแบบไหนรับมือกับ บาร์เซโลน่า แต่ที่แน่ ๆ ความสำเร็จของสองกุนซือในการแข่งขันรายการนี้เป็นหลักฐานชั้นดีว่าอายุไม่ใช่ตัวแปรสู่ความสำเร็จ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความสามารถและคุณภาพของการเป็นผู้นำ ที่สไตล์การทำงานั้นแตกต่างกันไป
 
            บาร์เซโลน่า คงรูปแบบการเล่นมาอย่างยาวนานและผู้เล่นทุกคนรู้ระบบเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังอ่านการเคลื่อนที่ของเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรู้ใจ ส่วน ยูไนเต็ด เล่นได้เสมอต้นเสมอปลายและมีนักเตะที่เป็นคีย์แมนในทุกพื้นที่ ซึ่งช่วยให้พวกเขาประสานกันอย่างลงตัว แต่ไม่ว่ายังไงมันน่าเสียดายที่ไม่มีทีมจากโปรตุเกสเข้าถึงรอบชิงฯของรายการนี้ ทว่าพวกเขากลับไปประสบความสำเร็จใน ยูโรป้า ลีก แทน เพราะมีถึง 3 สโมสรที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในปีนี้