อียิปต์

แบโผ 29 แข้งมัมมี่ก่อนตัดตัว,ซาล่าห์นำทัพ

     ทีมชาติอิยิปต์ หรือ ฉายา "ฟาโรห์" และ "มัมมี่" นั้นเป็นตัวแทนของประเทศอิยิปต์ในการแข่งขันฟุตบอลชายระหว่างประเทศ ซึ่งถูกควบคุมโดยสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติอียิปต์ หรือ อีเอฟเอ ที่ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1921 ทีมชาติอีบิปต์นั้นถือเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาทีมชาติจากทวีปแอฟริกา โดยพวกเขานั้นเคยคว้าแชมป์รายการ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ มาแล้วทั้งหมด 7 สมัยด้วยกัน ในปี 1957, 1969 (อียิปต์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน), 1986, 1998, 2006, 2008, และ ในปี 2010 พวกเขาเคยไต่อันดับขึ้นไปอยู่ที่อันดับที่เก้าของโลกจากการจัดอันดับของทางฟีฟ่า ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นเพียงหนึ่งในสามทีมชาติจากทวีปแอฟริกา ที่เคยอยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของโลกจากฟีฟ่า

     ถึงแม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จมากมายในระดับทวีปก็ตาม แต่ทีมชาติอิยิปต์นั้นเคยผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น (ในปี 1934 และ 1990) และพวกเขาก็ไม่เคยสามารถเก็บชัยชนะได้เลยในทั้งสองปี และต้องต้องรบแบ่งกลุ่มไป อย่างไรก็ตาม ทีมชาติอียิปต์ คือทีมชาติแอฟริกัน-ตะวันออกกลางทีมชาติแรกที่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย อยางไรก็ตามในวันที่ 8 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา ทีมชาติอียิปต์สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง และจะเป็นการกลับมาหลังจากห่างหายจากเวทีนี้ไปถึง 28 ปีด้วยกัน

     ด้วยสไตล์การเล่นแบบตั้งรับลึกเน้นโต้กลับเป็นเรื่องยากที่ทีมใดจะเจาะแนวรับอียิปต์เข้า และภายใต้การคุมทีมของ เฮคเตอร์ คูเปร์ ทั้งหมด 32 แมตช์ พลพรรคมัมมี่เสียประตูเกินหนึ่งลูกในนัดเดียวแค่สองเกม(แคเมอรูนและโปรตุเกส) แต่ถึงแม้ว่าอดีตกุนซือ บาเลนเซีย และ เอซี มิลาน รายนี้จะทำผลงานได้ค่อนข้างดีด้วยการพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รวมถึงการพาทีมไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายครั้งแรกในรอบ 28 ปีแต่เฮดโค้ชชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ก็ยังถูกตำหนิเรื่องสไตล์การเล่นที่เน้นตั้งรับเป็นหลัก

อียิปต์
อียิปต์

     อย่างไรก็ตามทีมอียิปต์ชุดนี้ผสมผสานไปด้วยนักเตะดาวรุ่งและนักเตะมากประสบการณ์ อย่างเช่น อัซซาม เอล ฮาดารี่ ผู้รักษาประตูวัย 45 ปีที่เตรียมจะกลายเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่ได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย พวกเขายังมีแนวรับที่เหนียวแน่นอย่าง รามี่ ราเบีย และ อาเหม็ด เฮกาซี กองหลังของ เวสต์บรอมวิช ส่วนในแผงกองกลางมี อับดุลลาห์ ซาอิด และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ มิดฟิลด์ของ อาร์เซนอล คอยสร้างสรรค์เกม และที่เป็นตัวชูโรงซึ่งเป็นความหวังของทีมชุดนี้คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกสุดร้อนแรงที่ฤดูกาลนี้ถล่มประตูให้ ลิเวอร์พูล เป็นว่าเล่น รวมถึงดาวรุ่งอย่าง รามาดาน โซบี ปีกจาก สโต๊ค ซิตี้ และกองหน้าตัวเป้า มาห์มูด ฮัสซัน หรือมี่เรียกกันว่า เทรเซเกต์

รายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติอียิปต์ก่อนตัดตัว

ผู้รักษาประตู : เอสซัม เอล ฮาดารี่ (อัล ทาวอน), โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ (อัล อาห์ลี), เชอรีฟ เอครามี่ (อัล อาห์ลี)

กองหลัง : อาห์เหม็ด ฟาธี (อัล อาห์ลี), ซาอัด ซาเมียร์ (อัล อาห์ลี), อายมัน อัชราฟ (อัล อาห์ลี), โมฮาเหม็ด อับเดล ชาฟี่ (อัล ฟาเตห์), อาห์เหม็ด เฮกาซี่ (เวสต์บรอม), อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ (แอสตัน วิลล่า), อาลี กาเบอร์ (เวสต์บรอมวิช), โอมาร์ กาเบอร์ (แอลเอ เอฟซี)

กองกลาง : ทาเร็ค ฮาเหม็ด (ซามาเล็ค), อับเดล อาซิซ (ซามาเล็ค), ชิกาบาล่า (อัล ราเอ็ด), อับเดลลาห์ ซาอิด (คูพีเอส), แซม มอร์ซี่ (วีแกน), โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (อาร์เซนอล), รามาดาน โซบี (สโต๊ค ซิตี้), เทรเซเก้ต์ (คาซิมปาซ่า), อาเมียร์ วาร์ด้า (อาโทรมิทอส)

กองหน้า : มาร์วาน โมห์เซน (อัล อาห์ลี), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล), คาห์ราบา (อัล อิตติฮัด)

socceroos   |   06-06-2018 18:55 น.