สวีเดน

ไวกิ้ง ยกพลขึ้นบก ลุยเวิลด์คัพแดนหมีขาว

           ทีมชาติ สวีเดน ในวันที่ไร้จอมทัพในแดนหน้าอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในดาวยิงฝีเท้าฉกาจที่สุดในยุคนี้ ทำให้อาจมองว่าเป็นเพียงทีมไม้ประดับเท่านั้น แต่การล้ม ยักษ์ใหญ่อย่าง อิตาลี มาได้ในรอบคัดเลือก ก็ถือเป็นป้ายรับประกันความแข็งแกร่งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่มี ซลาตัน แต่พวกเขายังมีผู้เล่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยในทีมชุดนี้ที่กุนซือ แยนน์ แอนเดอร์สสัน เรียกเข้ามา อย่าง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก มิดฟิลด์ตัวเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่เราต่างก็คุ้นหูกันเป็นอย่างดี

          ลิสต์ที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังของ ทัพ "ปีศาจแดง" ที่ในฤดูกาลนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่น โดยเจ้าตัวต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับศึก พรีเมียร์ลีก อยู่นาน รวมถึงเรื่องความแข็งแกร่งที่ต้องเสริมให้แน่นกว่านี้ แต่การได้กุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เก่งในเรื่องแท็คติคเกมรับก็ช่วยทำให้เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้เป็นอย่างมากอีกด้วย ส่วนผู้เล่นอีก 2 รายที่เล่นในอังกฤษ กลับอยู่ในลีกรองอย่าง พอนตัส แยนส์สัน (ลีดส์ ยูไนเต็ด) และกัปตันทีมอย่าง เซบาสเตียน ลาร์สสัน (ฮัลล์ ซิตี้)

 

          ในรายชื่อ 23 คน สุดท้ายชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 มีผู้เล่นจากลีกนอก ยุโรป ถึง 2 รายคือ กุสตาฟ สเวนส์สัน กองกลางจาก ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา และ มาร์คัส เบิร์ก ดาวยิงที่ระเบิดตาข่ายไปถึง 32 ลูก สังกัด อัล ไอน์ ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พูดถึงความเข้มข้นของการแข่งขันแล้วเชื่อว่ามีน้อยกว่าในลีกหลักๆของยุโรป แต่ในรายของ เบิร์ก นั้นประสบการณ์โชกโชน เล่นมาแล้วทั้ง โกรนิงเก้น, ฮัมบูร์ก, พานาธิไนกอส และลงสนามในนามทีมชาติไปถึง 55 นัด ซัดไปถึง 18 ลูก มากที่สุดในทีมชุดนี้อีกด้วย

          แนวรุก แน่นอนว่าการไม่มี "พระเจ้า" อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ย่อมส่งผลถึงคุณภาพในการโจมตีคู่แข่งที่ลดลงไปด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กุนซือ แยนน์ แอนเดอร์สสัน ที่จะต้องปรับจูนการเข้าทำของทีมให้ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด และไม่ทำให้แฟนบอลพูดลับหลังได้ว่าพอไม่มี อิบราฮิโมวิช จากราชสีห์ที่น่าเกรงขาม กลายมาเป็นแมวเหมียวน้อยน่ารักไปได้ ฉะนั้นคงต้องฝากความหวังไว้ที่ตัวทำเกมอย่าง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก มิดฟิลด์ตัวเก่งจากค่าย แอร์เบ ไลป์ซิก ที่เป็นความหวังในเกมรุกชุดนี้ แม้ในฤดูกาลที่เพิ่งจบไปเจ้าตัวจะโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่า ซีซั่น 2016/17 แต่ก็ยังถือว่าเป็นอาวุธหนักที่อันตรายสุดๆของ สวีเดน ชุดนี้เลยทีเดียว

          นอกจาก ฟอร์สเบิร์ก แล้วแดนกลาง ยังมีที่เด่นๆอย่าง จิมมี่ ดูร์มาซ ปีกซ้ายตัวจี๊ดจากสังกัด ตูลูส ที่ติดทีมชาติไปแล้วถึง 44 เกม และ โอล่า ทอยโวเน่น ศูนย์หน้าจากทีมเดียวกันอีกด้วย ในรายของ ดูร์มาซ นั้นโดดเด่นในเรื่องความเร็วและเทคนิคก็ยอดเยี่ยม โจมตีทางริมเส้นได้เป็นอย่างดี และการเล่นอยู่ทีมเดียวกันกับ ทอยโวเน่น ก็ทำให้ทั้งคู่ต่างรู้จังหวะและการเคลื่อนที่ของกันและกันเป็นอย่างดีอีกด้วย ฉะนั้น การประสานงานของทั้ง 2 คนนี้จึงเป็นทีเด็ดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจาก มาร์คัส เบิร์ก แล้วก็มี ทอยโวเน่น นี่แหละที่เป็นรองดาวซัลโวในระดับทีมชาติ (13 ประตู)

 

สวีเดน
สวีเดน

          จุดอ่อนของทีมชุดนี้มีให้เห็นเยอะพอสมควร แต่ที่อย่างจะเจาะลึกคงหนีไม่พ้นแนวรับที่ยังฝากผีฝากไข้ไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นจากสโมสรเล็กๆทั้งนั้น มีแค่ ลินเดอเลิฟ รายเดียวที่พอเชิดหน้าชูตาได้บ้าง ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ก็ดูจะน่าวิตกไม่น้อยเพราะมือหนึ่งอย่าง โรบิน โอลเซ่น เล่นให้กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ในลีก เดนมาร์ก เท่านั้น ไม่ใช่ 5 ลีกใหญ่ยุโรป ที่มีความเข้มข้นระดับสูงแต่อย่างใด

          สวีเดน อยู่ในกลุ่ม เอฟ ร่วมกับ เยอรมัน, เม็กซิโก และเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นกลุ่มที่แข็งใช่เล่น ห้ามประมาทเด็ดขาด ทัพ "จังโก้" นั้นเป็นทีมที่เล่นบอลกันอย่างรวดเร็วและความสามารถเฉพาะตัวก็คล่องกว่าทีมจากกยุโรป ฉะนั้น สวีเดน จึงต้องอาศัยจุดแข็งของพวกเขาอย่างระบบทีม แะลูกกลางอากาศให้เกิดประโยชน์ให้สูงที่สุด เป้าหมายของ กุนซือ แยนน์ แอนเดอร์สสัน จึงอยู่ที่การจะพาทีมผ่านเข้ารอบต่อไปได้หรือไม่ เพราะฝ่าด่าน เยอรมัน ยากสุดๆ อย่างดีก็เข้ารอบเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มให้ได้ ที่เหลือก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว

23 ขุนพลทีมชาติ สวีเดน ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

ผู้รักษาประตู : โรบิน โอลเซ่น (โคเปนเฮเกน/ เดนมาร์ก), คาร์ล-โยฮัน ยอร์นส์สัน (แก็งก็อง/ ฝรั่งเศส), คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลดท์ (สวอนซี ซิตี้ / เวลส์)


กองหลัง :
มิคาเอล ลุสติก (กลาสโกว์ เซลติก / สกอตแลนด์), วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / อังกฤษ), อันเดรียส แกรนควิสต์ (กราสโนดาร์ / รัสเซีย), มาร์ติน โอลส์สัน (สวอนซี ซิตี้ / เวลส์), ลุดวิค ออกุสดินส์สัน (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมัน), ฟิลิป เฮลันเดอร์ (โบโลญญา / อิตาลี), เอมิล คราฟธ์ (โบโลญญา / อิตาลี), พอนตัส แยนส์สัน (ลีดส์ ยูไนเต็ด / อังกฤษ)


กองกลาง :
เซบาสเตียน ลาร์สสัน (ฮัลล์ ซิตี้ / อังกฤษ), อัลบิน เอคดัล (ฮัมบูร์ก / เยอรมัน), เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (ไลป์ซิก / เยอรมัน), กุสตาฟ สเวนส์สัน (ซีแอตเติล ซาวน์เดอร์ส / สหรัฐอเมริกา), ออสการ์ ฮิลเยมาร์ก (เจนัว / อิตาลี), วิคเตอร์ เครสสัน (กราสโนดาร์ / รัสเซีย), มาร์คุส โรห์เดน (โครโตเน / อิตาลี), จิมมี ดูร์มาซ (ตูลูส / ฝรั่งเศส)


กองหน้า :
มาร์คุส เบิร์ก (อัล ไอน์ / ยูเออี), จอห์น กุยเดตติ (อลาเบส / สเปน), โอลา ทอยโวเนน (ตูลูส / ฝรั่งเศส), อิซัค คีเซ เธลิน (วาสแลนด์-เบเวเรน / เบลเยี่ยม)

 

sittiwut   |   24-05-2018 17:40 น.